Pages - Menu



วันศุกร์ที่ 13 กันยายน พ.ศ. 2556

กีวี-องุ่นเขียว ดื่มเสริมคอลลาเจน

 


ช่วยบำรุงผิวพรรณให้เต่งตึง
              มาถึงวันศุกร์ส่งท้ายการทำงานอย่างนี้ เลยเตรียมสูตรเครื่องดื่มเสริมสร้างคอลลาเจนใต้ผิวหนัง แถมยังช่วยบำรุงผิวพรรณให้ดูเต่งตึง โดยอาศัยสารอาหารที่มีอยู่ในกีวีและองุ่นเขียว

              สำหรับผล กีวี เปลือกน้ำตาลมีขนเนื้อในเขียวใสนี้อุดมไปด้วยวิตามินซี แมกนีเซียม โพแทสเซียม แคลเซียม ฟอสฟอรัส โซเดียม และเบตาแคโรทีน การรับประทานกีวีจะช่วยเสริมภูมิคุ้มกันแก่ร่างกาย ไม่ถูกหวัดกินง่าย ๆ ในช่วงอากาศเปลี่ยนแปลง

              ส่วน องุ่นเขียว นั้นมีสรรพคุณในการเพิ่มความเร็วให้แก่กระบวนการเผาผลาญอาหาร รวมทั้งการล้างพิษ เหมาะกับผู้ที่กำลังควบคุมน้ำหนัก ดีต่อเลือดลม ช่วยขับปัสสาวะ ในองุ่นเป็นแหล่งรวมของฟอสฟอรัส กำมะถัน แคลเซียม เหล็ก วิตามินบี1 บี2 วิตามินซี กรดไฟโตเคมิคอลเอลลาจิก และทาร์ทาริก

              ขณะที่ส่วนผสมดังกล่าวซึ่งบอกเล่าสรรพคุณไปนั้นควรเตรียมให้ได้สัดส่วนต่อไปนี้...

              กีวี             1 ถ้วย
              องุ่นเขียว   1 ถ้วย
              น้ำแข็งป่น  1 ถ้วย

              ขั้นตอนการปรุง เริ่มด้วยการนำกีวีและองุ่นเขียวไปทำความสะอาด จากนั้นนำองุ่นเขียวไปผ่าครึ่งโดยไม่ต้องเอาเมล็ดออก ส่วนกีวีให้ปลอกเปลือกก่อนแล้วหั่นเป็นแว่น นำองุ่นเขียวและกีวีไปปั่นรวมกันด้วยเครื่องปั่น หลังจากปั่นไปได้สักครู่จนเนื้อผลไม้พอละเอียดเข้ากันให้เติมน้ำแข็งป่นเล็กน้อยแล้วปั่นส่วนผสมทั้งหมดอีกครั้งเป็นอันเสร็จ





ที่มา : หนังสือพิมพ์เดลินิวส์

วันพฤหัสบดีที่ 12 กันยายน พ.ศ. 2556

อย.ให้ความรู้คอลลาเจน




คอลลาเจนคือ โปรตีนชนิดหนึ่งที่อยู่ใต้ชั้นหนังแท้ เป็นโปรตีนสำคัญของผิวหนังที่มีโครงสร้าง

โมเลกุลใหญ่ ทำหน้าที่เสริมความเรียบตึงของผิวหนัง ทำให้ผิวแข็งแรงและเรียบเนียน และอยู่คู่กับโปรตีน

ที่สำคัญอีกชนิดหนึ่งคือ อิลาสติน ในขณะที่คอลลาเจนมีหน้าที่เสมือนโครงสร้างของผิว และทำให้ผิว

เต่งตึง อิลาสตินจะมีหน้าที่สร้างความยืดหยุ่นให้กับผิว และทำให้ผิวไม่มีริ้วรอย หากอยากลองสัมผัสความ

ตึงของคอลลาเจน ให้ลองจับแก้มเด็กตัวเล็ก ๆ ดู จะสัมผัสได้ทันทีถึงความใส ตึงที่ผิวแก้ม หรือดูเด็กวัยรุ่น

ที่กำลังแตกเนื้อหนุ่มสาว จะเห็นว่ามีผิวพรรณเต่งตึง ซึ่งภายหลังอายุ 20 ปี คอลลาเจนจะค่อยๆ เสื่อมสภาพ

ลง ทำให้ชั้นผิวหนังมีการยุบตัวลง อันเป็นต้นเหตุของความเหี่ยวย่น ริ้วรอยและความชราของผิวพรรณ 

ริ้วรอยแรกของความชราจะเป็นรอยตีนกา เพราะผิวหนังรอบดวงตามีความบอบบางมาก ผิวรอบดวงตา

ก็เลยจะเหี่ยวหรือมีริ้วรอยง่ายกว่าที่อื่น 




ปัจจุบันนี้มีการกล่าวอ้างถึงคุณสมบัติของคอลลาเจนกันอย่างกว้างขวางในวงการเครื่องสำอาง

และความงาม ดังปรากฏในการโฆษณาเครื่องสำอางทางสื่อต่างๆ สรุปได้เป็น 3 ประเด็นหลักดังนี้




การโฆษณาว่ามีคอลลาเจนเป็นส่วนประกอบในเครื่องสำอาง หมายถึงเครื่องสำอางมีส่วนผสม

ของคอลลาเจน ซึ่งมีคุณสมบัติเพียงผลักคอลลาเจนให้อยู่แค่ชั้นหนังกำพร้าและด้วยคุณสมบัติ

ที่คอลลาเจนสามารถอุ้มน้ำได้ประมาณ 30 เท่าของน้ำหนักตัวมัน จึงทำให้ผิวชั้นหนังกำพร้าชุ่ม

ชื้นขึ้น ซึ่งตลอดการใช้เครื่องสำอางอย่างต่อเนื่องสม่ำเสมอจะทำให้ผิวได้รับความชุ่มชื้นเพิ่มขึ้น 

จึงแลดูว่าริ้วรอยลดลง

การโฆษณาว่าคอลลาเจนที่เป็นส่วนประกอบในเครื่องสำอางสามารถซึมผ่านผิวหนัง หรือเข้าไป

ทดแทนคอลลาเจนที่มีอยู่ในผิวตามธรรมชาติได้ เป็นการกล่าวอ้างที่เป็นเท็จ เกินจริง และเกิน

ขอบข่ายของเครื่องสำอางตามกฎหมาย ทั้งนี้เนื่องจากการที่คอลลาเจน คือโปรตีนที่อยู่ใต้ชั้น

หนังแท้ และมีโครงสร้างโมเลกุลใหญ่จึงไม่สามารถซึมผ่านผิวหนังได้ด้วยการทาเครื่องสำอาง

สำหรับในกรณีที่กล่าวอ้างว่านำเทคโนโลยีนาโนมาใช้ในเครื่องสำอางในรูปแบบอนุภาคหรือถุง

ขนาดเล็กในระดับนาโน เช่น ไลโปโซม นีโอโซม เพื่อให้มีประสิทธิภาพในการซึมผ่านผิวหนัง

ที่ดีขึ้นนั้น ปัจจุบันยังไม่มีการศึกษาใดที่ยืนยันในเรื่องความปลอดภัยในการใช้ ทั้งนี้เนื่องจาก

เครื่องสำอางเป็นผลิตภัณฑ์ที่ต้องใช้อย่างต่อเนื่องยาวนาน จึงอาจเกิดอันตรายต่อสุขภาพของผู้ใช้

ในระยะยาวได้ หากสารซึมผ่านสู่ชั้นหนังแท้ได้ 

การโฆษณาว่าเครื่องสำอางมีสรรพคุณในการเสริมสร้าง หรือกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน หรือมี

ผลต่อการเปลี่ยนแปลงคอลลาเจนที่ผิว เป็นการกล่าวอ้างที่ทำให้เข้าใจได้ว่าผลิตภัณฑ์มีผลต่อการ

ทำงานของระบบภายในร่างกายซึ่งเป็นสรรพคุณทางยา จึงทำให้เข้าใจผิดในสาระสำคัญเกี่ยวกับ

เครื่องสำอาง เป็นการโฆษณาเครื่องสำอางที่ฝ่าฝืนกฎหมาย ทั้งนี้เนื่องจากการนำสารสกัด

คอลลาเจน เข้าสู่ร่างกายเพื่อผลในการบำรุงผิวและลดริ้วรอยนั้น ปัจจุบันทำได้ 2 วิธีคือ โดยการ

รับประทานในรูปแบบผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร หรือฉีดเข้าใต้ผิวหนังชั้นหนังแท้ ซึ่งวิธีการ 

รับประทานเป็นวิธีการที่นิยมมากกว่า 



งานตรวจสอบโฆษณาเครื่องสำอาง

อนุมัติ………………….. กลุ่มควบคุมเครื่องสำอาง


อย.ให้ความรู้คอลลาเจน

วันจันทร์ที่ 2 กันยายน พ.ศ. 2556

คอลลาเจนจากปลา กินให้เป็น ช่วยให้สวย

เภสัชกรหนุ่มรูปหล่อพาคุณเดินทางมาถึงคำตอบสุดท้ายของการเติมคอลลาเจนธรรมชาติ เพื่อชะลอและปกป้องให้ชั้นผิวหนังไม่ให้มีการยุบตัว ที่เป็นชนวนเหตุของความเหี่ยวย่น ริ้วรอย และความชราของผิวพรรณ มาถึงบทสรุปของการกินคอลลาเจน เพื่อคืนความอ่อนเยาว์อีกครั้ง ให้ผิวคุณกันแล้ว
fish_collagen

ทำไมต้องเสริมคอลลาเจนด้วยการรับประทาน

เมื่อถึงเวลาที่ผิวคุณต้องการเติมคอลลาเจนโปรตีน เราต้องรู้ก่อนว่าสารอาหารนี้เป็นโปรตีนที่มีโครงสร้างโมเลกุลใหญ่มาก ดังนั้นคอลลาเจนทั่วไปไม่สามารถซึมผ่านผิวเราได้โดยการทาหรือกินสารอาหารที่มีคอลลาเจนทั่วๆไป การเติมสารนี้เข้าผิวคุณให้ได้ผลสามารถทำได้ 2 วิธีคือ โดยการรับประทานในรูปแบบผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร หรือ โดยการฉีดเข้าใต้ผิวหนังชั้นหนังแท้ วิธีการรับประทานจึงเป็นวิธีการที่สะดวกกว่า เพราะจะช่วยให้ได้รับจากการบริโภคคอลลาเจนอย่างต่อเนื่องสม่ำเสมอทุกๆวัน เพียงพอต่อผิวหนังคุณที่ต้องการสารนี้นำไปช่วยในการสร้างเนื้อเยื่อคอลลาเจนใต้ผิวหนัง ลดริ้วรอยเหี่ยวย่นของผิวหนังอย่างได้ผล และทำให้ผิวมีความชุ่มชื้น นุ่มเนียนขึ้น

ปัจจุบันนี้มีการนำสารสกัดโปรตีนจากปลา ที่ให้มีโครงสร้างโมเลกุลคล้ายกับโครงสร้างของคอลลาเจนของผิวคนมากที่สุด เมื่อดื่มเข้าไปแล้วจึงจะสามารถช่วยเสริมสร้างคอลลาเจนภายในผิวคุณไปช่วยให้ริ้วรอยต่าง ๆ จางหาย

คอลลาเจนเสริมที่ดีควรเป็นอย่างไร

คอลลาเจนที่วางจำหน่ายมีหลายรูปแบบ แต่คอลลาเจนที่นำมาสกัดในรูปเป็นเกล็ดผงเล็ก ๆ จะสามารถละลายในน้ำได้ดี และยังนำไปผสมกับเครื่องดื่มอื่น ๆ ได้ง่ายและช่วยให้มีรสชาติดีขึ้น ดื่มได้ง่าย โดยคอลลาเจนผงลักษณะนี้จะมีผงละเอียดที่มีขนาดน้ำหนักโมเลกุลที่เล็กมาก (3000) จึงย่อยและดูดซึมเข้าร่างกายได้ง่าย

ถ้าจะให้ดีควรเป็นคอลลาเจนบริสุทธิ์ 100% ไม่ควรเติมสารกันบูด และสารแต่งกลิ่น ปราศจากไขมันและน้ำตาลใดๆเพื่อความปลอดภัยครับ

ควรบริโภคคอลลาเจนเท่าไรต่อวัน และมีความปลอดภัยหรือไม่

สารอาหารทุกชนิดอาจก่อให้เกิดอาการแพ้ได้ และมีบางคนอ่อนไหวต่อการบริโภคโปรตีน คอลลาเจนเป็นโปรตีนชนิดหนึ่ง อาจทำให้เกิดอาการแพ้ได้ ถ้าคุณเคยมีอาการแพ้ต่อโปรตีนจากปลามาก่อน ต้องระวังก่อนการใช้ เช่นเดียวกัน ถ้าคุณมีอาการผิดปกติเกี่ยวกับไตและตับ และอยู่ภายใต้การดูแลรักษาของหมออยู่ การบริโภคคอลลาเจนในปริมาณมาก อาจก่อให้เกิดอันตรายต่อระบบทางเดินอาหารได้ จึงควรปรึกษาแพทย์ก่อนเริ่มต้นบริโภคคอลลาเจนเสริม ส่วนระยะเวลาที่เหมาะสมคุณสามารถผสมคอลลาเจนกับอาหารและเครื่องดื่มที่ชอบ ในเวลาเช้า บ่าย ค่ำ หรือก่อนนอนแล้วแต่สะดวก

สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยาของประเทศไทย ได้อนุญาตให้บริโภคได้ไม่เกิน 10 กรัมต่อวัน แต่จริงๆแล้วเราแนะนำให้ บริโภคเพียง 5 กรัมต่อวันก็เพียงพอแล้วในการดูดซึมเข้าสู่ร่างกายอย่างมีประสิทธิภาพอย่างปลอดภัย

รู้ได้อย่างไรว่าคอลลาเจนจะได้ผล

คอลลาเจนที่ร่างกายดูดซึมได้เข้าไปจะไปทำหน้าที่เป็นโปรตีนไฟเบอร์ที่ทำหน้าที่เชื่อมต่ออวัยวะทุกส่วนของร่างกายเข้าไว้ด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็นกระดูก ผิวหนัง ปอด เส้นเอ็น กล้ามเนื้อ กระดูกอ่อน โดยไปสร้างความแข็งแรงโดยทำงานร่วมกับอีลาสติน เพื่อเพิ่มความยืดหยุ่นแก่อวัยวะส่วนต่างๆของผิวหนังโดยมีระยะเวลาเห็นผลประมาณ 30 – 60 วัน

คุณสามารถสัมผัสถึงพลังของคอลลาเจนเสริมที่มีผลต่อการคืนความเยาว์วัยคืนมาได้โดย ริ้วรอยต่างๆที่ย่นยับจะตื้นขึ้น ผิวที่หย่อนยานจะกระชับขึ้น รวมไปพบว่าผิวมีความชุ่มชื้นมากขึ้น สำหรับผม และ เล็บจะแข็งแรงและหนาขึ้น

บทสรุปของคอลลาเจน

มาถึงตอนสุดท้ายแล้วขอสรุปถึงคุณประโยชน์ที่คุณจะได้จากคอลลาเจนได้แก่

·         ฟื้นฟูสุขภาพผิว เพิ่มความยืดหยุ่น และความชุ่มชื่นของผิว
·         ทำให้ผิวพรรณขาวใส โดยไปเติมร่องลึก ช่วยให้ ฝ้า  กระ จางลง
·         คืนความอ่อนเยาว์ในเวลาอันรวดเร็ว ยับยั้งการเกิดรอยเหี่ยวย่น บำรุงผิวให้เนียนนุ่ม
·         สำหรับระบบเลือด เป็นตัวกระตุ้นให้เกิดการสร้างเส้นเลือด  เม็ดเลือด และเนื้อเยื่ออื่น ๆ
·         บำรุงสุขภาพผม เล็บ สายตา และรักษาความผิดปรกติของเส้นประสาท
·         ควรเสริมร่วมด้วยแคลเซียม จะมีผลไปป้องกันโรคกระดูกพรุน  เสริมสร้างให้กระดูกแข็งแรง

หวังว่าทุกท่านที่ติดตามอ่าน จะได้รับทราบความรู้เรื่องคอลลาเจนเต็มอิ่มครบถ้วนในการหยุดยั้งการเหี่ยวย่นและคืนความหน้าใส เด้งดึ๋งให้กลับคืนมาได้เหมือนวัยเยาว์กันนะครับ หากคุณๆ อยากทราบทุกคำตอบทุกเรื่องสุขภาพ กรุณาส่งซองคำถามของคุณมาได้ที่อีเมล์ utaisuk@gmail.com หรือแวะไปที่ Facebook “UTAI SUKVIWATSIRIKUL” หรือ “37C PHARMACY” ยินดีตอบรับทุกท่านครับ

แหล่งข้อมูล

·         เภสัชกร อุทัย สุขวิวัฒน์ศิริกุล สงวนลิขสิทธิ์ 24 มค. 2554
          http://www.oknation.net/blog/DIVING

จะไปหาคอลลาเจนได้ที่ไหน มาช่วยให้ไม่ชรา



เมื่ออายุคนเรามากขึ้น ความชราจะมาพรากคุณสมบัติของคอลลาเจนในผิวคุณที่เสื่อมลงทำให้ประสิทธิภาพการอุ้มน้ำไม่ดี เพียงคุณสัมผัสผิวก็จะเห็นได้ชัดจากผิวหนังแห้ง เหี่ยว หย่อนคล้อย กระดูกเสื่อม เส้นเอ็นตามร่างกายและข้อทั้งหลายตึง ทำให้เกิดการอักเสบง่าย ดังนั้นจึงมีการพัฒนาผลิตภัณฑ์เพื่อช่วยเสริมและทดแทนคุณภาพของธรรมชาติที่ถดถอยลง ในตอนนี้เภสัชกรหนุ่มรูปหล่อจะพาคุณไปพบแหล่งที่มาของคอลลาเจนและประโยชน์จากการใช้อย่างถูกต้อง

คอลลาเจนคือกาวธรรมชาติในร่างกายทำหน้าที่เชื่อมต่ออวัยวะทุกส่วนของร่างกายคุณ

คอลลาเจนคือโปรตีนไฟเบอร์ที่ทำหน้าที่เชื่อมต่ออวัยวะทุกส่วนของร่างกายเข้าไว้ด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็นกระดูก ผิวหนัง ปอด เส้นเอ็น กล้ามเน้อ กระดูกอ่อน แม้แต่เส้นเลือดก็ยังคงมีคอลลาเจนเป็นองค์ประกอบสำคัญ คอลลาเจนมีคุณสมบัติไม่ละลายลายน้ำ แต่อุ้มน้ำได้ดีมาก(พองตัวได้ดี) มีความแข็งแรงโดยทำงานร่วมกับอีลาสติน เพื่อเพิ่มความยืดหยุ่นแก่อวัยวะส่วนต่างๆของผิวหนัง

แหล่งที่มาของคอลลาเจนที่ถูกนำไปใช้ประโยชน์

เมื่ออายุมากขึ้นๆ นอกเหนือจากร่างกายคุณจะผลิตสารนี้ได้น้อยลงแล้ว คุณสมบัติของคอลลาเจนที่มีอยู่จะเสื่อมลงไปอีก ทำให้ประสิทธิภาพการอุ้มน้ำไม่ดี เห็นได้ชัดจากการที่ผิวหนังแห้ง เหี่ยว หย่อนคล้อย กระดูกเสื่อม เส้นเอ็นตามร่างกายและข้อทั้งหลายตึง ทำให้เกิดการอักเสบง่าย ดังนั้นจึงมีการพัฒนาผลิตภัณฑ์เพื่อช่วยเสริมและทดแทนคุณภาพของธรรมชาติที่ถดถอยลง

คอลลาเจนธรรมชาติที่มีคุณภาพจะได้มาจากการสกัดจากผิวหนังและกระดูกของปลา ลูกวัวและหมู แต่เนื่องจากคุณสมบัติที่ไม่ละลายน้ำโดยธรรมชาติ ในกระบวนการสกัดจำเป็นต้องสลายด้วยกรดเพื่อให้ละลายน้ำและแยกออกจากเนื้อเยื่ออื่นๆได้ ดังนั้น ชนิดของคอลลาเจนที่นำมาใช้ประโยชน์ทั้งหมดจึงเรียกว่า ไฮโดรไลซ์คอลลาเจน ซึ่งจะมีขนาดโมเลกุลที่เล็กมากเพื่อละลายน้ำและสามารถดูดซึมเข้าสู่กระเพาะอาหารหรือผ่านผิวหนังง่ายและรวดเร็ว

คอลลาเจนในเครื่องสำอาง

หยิบขวดเครื่องประทินผิวที่คุ้นเคยของคุณมา จะพบว่ามีการเติมสารสำคัญลงในตำรับเครื่องสำอาง เพื่อเป็นการกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนในชั้นผิวหนังโดยธรรมชาติ รวมไปทั้งการผลิตคอลลาเจนให้ผ่านขบวนการทำให้มีขนาดเล็กลงมากๆเพื่อให้ซึมผ่านชั้นผิวหนังได้ดี คุณสมบัติของคอลลาเจนที่ได้จะแตกต่างจากประสิทธิภาพของคอลลาเจนในร่างกาย ยังไม่สามารถให้ประโยชน์เทียบเท่าธรรมชาติได้ ส่วนที่นำมาทำเป็นแผ่นมาร์คปิดหน้า มักจะเป็นคอลลาเจนสกัดที่มีขนาดใหญ่ ถึงจะซึมผ่านผิวหนังไม่ได้ แต่สามารถให้ความชุ่มชื้นผิวหนังได้ดีเราจึงนำมาทำเป็นผลิตภัณฑ์มาร์คหน้า เป็นแผ่นไว้ปกคลุมผิวหน้าประมาณ 30 นาทีภายหลังจากนวดหน้าเสร็จ

ในทางการแพทย์คอลลาเจนถูกนำมาใช้มากมาย

ในศัลยกรรมตกแต่งผิวหนัง มีการนำมาใช้ในการทำผิวหนังเทียม และใช้รักษาอาหารผิวหนังไหม้ มีการนำมาฉีดบริเวณผิวหนังที่ต้องการ โดยเฉพาะบริเวณหางตา ร่องแก้ม หน้าผาก เพื่อเติมให้ผิวหนังบริเวณดังกล่าวเต็มและเต่งตึงโดยทันที

ส่วนผลิตภัณฑ์คอลลาเจนในรูปแบบยาหรืออาหารเสริม ถูกนำมาใช้ควบคู่กับรักษาโรคข้อเสื่อม ข้อยึด และเป็นอาหารเสริมให้ผิวหนังตามใบหน้า เต่งตึง ลดรอยเหี่ยวย่นได้อีก

อยากกินอาหารที่ช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนในร่างกาย มีอะไรบ้าง

คุณเองสามารถเลือกสรรอาหารตามธรรมชาติได้เช่นกัน เพื่อช่วยกระตุ้นให้ร่างกายสร้างคอลลาเจนได้เอง ได้แก่

·         ผลิตภัณฑ์อาหารที่ทำจากถั่วเหลืองและเนยแข็งหรือชีส นอกจากจะช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนแล้วยังช่วยชะลอความชราภาพของผิวหนังอีกด้วย
·         ผักใบเขียวเข้ม ก็ประกอบไปด้วยสารสำคัญที่จะช่วยกระตุ้นให้ร่างกายสร้างคอลลาเจนได้เอง
·         ผักและผลไม้ที่มีวิตามินซีและวิตามินเอสูงๆ ผลไม้ที่มีสีแดง สีส้ม มีสารต้านแอนตี้ออกซิเดชั่น ต้านอนุมูลอิสระจะเสริมให้มีการสร้างคอลลาเจนในร่างกายเช่นกัน ตัวอย่างเช่น มะเขือเทศแดง พริกหยวกแดง หรือผลไม้ที่มีสีแดงคล้ำ เช่น บลูเบอรี่ แบล็กเบอรี่ เป็นต้น
·         อาหารทะเลที่มีสารอาหารโอเมก้า เช่น ปลาทู ปลาทูน่า ปลาแซลมอน และถั่วต่างๆ ก็สามารถกระตุ้นให้ร่างกายสร้างคอลลาเจนเองได้

ตอนสุดท้ายในครั้งหน้า เราจะมาพิสูจน์ว่าร่างกายคุณจะได้รับประโยชน์ในการชะลอวัย จากคอลลาเจนเพื่อผิวใสเด้งดึ๋งได้อย่างไร ใช้ไปนานเท่าใดจึงจะคืนวัยเยาว์ได้อีก หากคุณๆ ใจร้อนอยากทราบทุกคำตอบทุกเรื่องเกี่ยวคอลลาเจน สามารถตามไปอ่านบทความได้โดยตรงโดยคลิ้กตามไปที่ link ข้างล่าง หรือส่งซองคำถามของคุณมาได้ที่อีเมล์ utaisuk@gmail.com ยินดีตอบรับทุกท่านครับ

แหล่งข้อมูล

•เภสัชกร อุทัย สุขวิวัฒน์ศิริกุล สงวนลิขสิทธิ์ 28 มค. 2553
http://www.oknation.net/blog/DIVING

คอลลาเจนแบบไหน ปกป้องข้อและผิวสวย




  เวลา สายน้ำ และอายุคนไม่สามารถย้อนไหลกลับ รวมไปถึงสภาพผิวของคุณที่มักสิ้นสูญความยืดหยุ่นเนื่องจากคอลลาเจนภายในผิวพร่องลง ชักนำให้ริ้วรอยเหี่ยวย่นกำเนิดบนผิวพรรณมาจนได้ในที่สุด มาพบคำตอบของการกินคอลลาเจนแบบไหน กินอย่างไรให้คุณได้ความเยาววัยกลับมาได้อีก

คอลลาเจนคืออะไร

คอลลาเจนคือโปรตีนธรรมชาติที่อยู่ในร่างกายของเราอยู่แล้ว ประกอบด้วยสารสำคัญ 2 ชนิด คือ proteoglycan และ glycosamionglycans ตัวมันเองจัดอยุ่ในพวกโปรตีนเนื้อเยื่อเส้นใยชนิดหนึ่งที่มีความยืดหยุ่น เรียกว่า elastic fiber ซึ่งประกอบไปด้วย amino acid หลายชนิด ที่สำคัญ ได้แก่ glycene, prolene และ hydroxyprolene มีความสำคัญยิ่งต่ออวัยวะต่างๆ ในร่างกายเรา ตั้งแต่ กล้ามเนื้อ เส้นเอ็น กระดูก กระดูกอ่อน ข้อ เหงือก ฟัน ตา หลอดเลือด ผิวหนัง และเนื้อเยื่อที่เกี่ยวกับการยึดเหนี่ยว (ligaments)

คอลลาเจนทำหน้าที่อย่างไรในร่างกายเรา

คอลลาเจนมีความสำคัญอย่างยิ่งในการเป็นโครงสร้างที่ช่วยให้ร่างกายแข็งแรง ทำหน้าที่ในการป้องกันอวัยวะต่างๆในร่างกาย และเชื่อมอวัยวะต่างๆให้อยู่ด้วยกัน ทำให้มีความยืดหยุ่นดี เช่น ช่วยให้ข้อต่อต่างๆ ขยับหรือเคลื่อนไหวไปมาไม่ติดขัด โดยเฉพาะจำเป็นต่อเนื้อเยื่อของกระดูกอ่อนบริเวณข้อในการรับน้ำหนักและขยับเคลื่อนไหวไปมาในอิริยาบถต่างๆ เช่น เดินหรือวิ่ง เป็นต้น โดยในร่างกายของคนเราพบว่ามีโปรตีนอยู่มากมาย แต่มีประมาณ 33% ของโปรตีนทั้งหมดในร่างกายจะเป็นคอลลาเจน และยังเป็นองค์ประกอบถึง 75 %ของผิวหนังเรา จึงเป็นตัวที่ช่วยให้ผิวหนังหรือผิวพรรณเกิดความชุ่มชื้น นุ่มนวล ดูสดใส กระชับและเต่งตึงขึ้น

ทำไมอายุมากขึ้น คอลลาเจนน้อยลง แล้วคนเราจึงแก่ลงด้วยหล่ะ

ในยามเด็กและหนุ่มสาวแก้มที่เด้งดึ๋งๆ มาจากการทำหน้าที่ของคอลลาเจนในร่างกายที่สร้างมาตลอดเวลา แต่พออายุมากขึ้นย่างเข้าช่วงสามสิบปี อัตราการสร้างสารนี้จะเริ่มเสื่อมถอยปีละ 1.5% และตลอดไป จากการวิจัยพบว่าในผู้หญิงจะลดลงมากกว่าผู้ชาย เมื่อระดับของคอลลาเจนลดลง ก็จะทำให้ความยืดหยุ่นและสภาพความแข็งแรงของโครงสร้างอวัยวะต่างๆของร่างกายลดลงด้วย ส่งผลให้คุณเริ่มสูญเสียความแข็งแรงของผิวหนัง กระดูก กระดูกอ่อน คุณจะรู้ได้ด้วยตัวคุณเองเมื่อ ถ้าเกิดที่ข้อต่อ ก็จะเป็นปัญหาโรคข้อเสื่อมตามมา จนเกิดปัญหาปวดข้อ ข้อฝืด ข้อแข็ง ข้อผิดรูป และข้ออักเสบ ที่น่ากลัวสุดถ้าขาดคอลลาเจนในส่วนของผิวหนังตรงใบหน้าแสนสวยแต่เดิมมา ก็จะเกิดริ้วรอย รอยเหี่ยวย่น และรอยตีนกาเกิดขึ้น

ถึงเวลาของคอลลาเจนเสริมจากธรรมชาติ จะหาได้จากไหน

ปัจจุบันนี้มีการนำสารสกัดคอลลาเจนมาใช้ประโยชน์ที่มีสองแบบ ในรูปที่เรียกว่า คอลลาเจน ไฮโดรไลเซท collagen hydrolysate ที่สามารถนำมาเพื่อใช้สำหรับบำรุงผิว ลดริ้วรอยต่างๆ กับอีกชนิดหนึ่งที่สกัดมาเพื่อใช้สำหรับบำรุงข้อ ซึ่งทั้ง 2 ชนิดนี้จะแตกต่างกัน ผิวหนังของเราจะเป็นคอลลาเจนชนิดที่ 1 ,3 และ 4 ส่วนที่ตำแหน่งข้อจะเป็นชนิดที่ 2 ที่มีองค์ประกอบสำคัญของข้อ จะแตกต่างจากผิวและอวัยวะส่วนต่างๆของร่างกาย คือ จะประกอบไปด้วยน้ำ 60% proteoglycan 10% และ collagen ชนิดที่ 2 30% ซึ่งจะแตกต่างกัน

จากการวิจัย จนได้ทดลองสกัดคอลลาเจนนำมาใช้ประโยชน์ในโรคข้อเสื่อม พบว่าการรับประทานต่อเนื่องกัน 3 เดือนขึ้นไป พบว่าไม่เพียงแต่จะสามารถเข้าไปทดแทนในเนื้อเยื่อกระดูกอ่อนได้ ยังมีคุณสมบัติไปกระตุ้นให้มีการส่วนประกอบสำคัญในกระดูกอ่อนตรงข้อต่อเพิ่มขึ้นได้อีกด้วย จึงช่วยบรรเทาอาการปวดข้อและข้อยึดนั้นลดน้อยลงได้ เมื่อรับประทาน คอลลาเจนเข้าไป จะช่วยทำให้การเคลื่อนไหวของข้อดีขึ้น นอกเหนือจากช่วยลดปัญหาเรื่องข้อเสื่อมได้แล้ว ยังมีประโยชน์ในผู้ที่มีปัญหาเรื่องกระดูกอย่าง เช่น ในคุณผู้หญิงวัยทองที่จำเป็นจะต้องเสริมแคลเซี่ยมและจำเป็นต้องใช้ยาที่ป้องกันการสลายตัวของมันเองในกระดูก เราพบว่าคอลลาเจนไปมีส่วนช่วยให้กระดูกแข็งแรงขึ้น และลดการสลายแคลเซี่ยมให้ไหลออกไปจากกระดูกได้ดีกว่าการใช้ยาแต่เพียงอย่างเดียวเท่านั้น

อีกด้านหนึ่งของการวิจัย มีการได้ทดลองสกัดคอลลาเจนนำมาใช้ประโยชน์ในด้านผิวพรรณ เราพบว่าการกินคอลลาเจนอย่างสม่ำเสมอยังไปมีผลช่วยฟื้นฟูสุขภาพผิว เพื่อความยืดหยุ่น และความชุ่มชื่นของผิว ส่งผลให้ผิวพรรณขาวใส และเติมร่องลึก ช่วยให้ ฝ้า กระ จางลง

ดังนั้นหากอยากได้ผลคอลลาเจน ไฮโดรไลเซท เพื่อคืนความอ่อนเยาว์ในเวลาอันรวดเร็ว หรือกลับไปมีขยับข้อได้ดังใจ การที่จะรับประทานคอลลาเจนชนิดไหนนั้น ขึ้นอยู่กับวัตถุประสงค์ว่าจะใช้ประโยชน์กับส่วนไหน เช่น ผิว หรือ ข้อ เพราะจะแตกต่างกัน

คอลลาเจน กินให้เป็น กินให้สวย

การพัฒนาคอลลาเจน ไฮโดรไลเซท collagen hydrolysate มาอยู่ในรูปแบบที่รับประทานง่าย และมีรสชาติอร่อยมากกว่าเดิม สามารถนำมาทำเป็นผงไว้ชงดื่ม และให้ละลายได้ง่ายในน้ำเย็น  ซึ่งในต่างประเทศ สหรัฐอเมริกาและเยอรมนี ต่างก็ให้ความสนใจในผลิตภัณท์นี้เป็นอย่างมาก เพราะเป็นหนึ่งทางเลือกที่ช่วยลดปัญหาข้อเสื่อมและรักษาผิวสวยได้

หากคุณเองต้องเสริมด้วยคอลลาเจนเพื่อผิวใสเด้งดึ๋ง ตอนต่อไปเภสัชกรหนุ่มรูปหล่อจะพาไปเลือกสรรคอลลาเจนเสริม ว่าจากแหล่งใด กินอย่างไร จึงจะได้ผิวสวยใสอย่างปลอดภัย หากคุณๆ ใจร้อนอยากทราบทุกคำตอบทุกเรื่องเกี่ยวคอลลาเจน สามารถตามไปอ่านบทความได้โดยตรงโดยคลิ้กตามไปที่ link ข้างล่าง หรือส่ง

แหล่งข้อมูล

•เภสัชกร อุทัย สุขวิวัฒน์ศิริกุล สงวนลิขสิทธิ์ 20 มค. 2553
http://www.oknation.net/blog/DIVING

ดูแลผิวอย่างไรไม่ให้สูญเสียคอลลาเจน ไม่เหี่ยวไม่ย่น

 
         นอกจากการได้รับคอลลาเจนทดแทนจากแหล่งธรรมชาติแล้ว วิธีที่จะทำให้ผิวพรรณกลับคืนสู่ความวัยเยาว์ได้นั้น ยังต้องพึ่งพาการปฏิบัติตนดูแลที่คุณสามารถดูแลผิวได้อย่างง่ายๆ ลองนำไปใช้เพื่อรักษาผิวสวยเด้งดึ๋งของคุณเอง  

กุญแจที่นำไปสู่ความอ่อนเยาว์ตลอดเวลา


    คุณเชื่อหรือไม่ว่าการดูแลผิวไม่ให้แก่เกินวัย สามารถทำได้ง่ายมาก เพราะมีเพียงแค่สองแนวทางเท่านั้นเอง คือหนึ่งเริ่มต้นที่ต้องรักษาผิวคุณเองโดยการรักษาความชุ่มชื้นไว้กับเซลล์ผิว และสองปกป้องผิวที่งามอยู่แล้วไม่ให้เสื่อมจากการโดนแสงแดดทำลาย


ปกป้องการสูญเสียความชุ่มชื้นจากเซลล์ผิวทำให้เกิดความหยาบกร้านและริ้วรอย

ถึงเวลาต้องใช้ตัวช่วยดูแลผิว โดยการที่คุณควรเลือกใช้ครีมชนิดพิเศษที่ให้ความชุ่มชื้นและมีประสิทธิภาพมากกว่าครีมทั่วไป ซึ่งสังเกตได้จากส่วนผสมที่มีส่วนประกอบประเภท ไฮโดรไลซ์อิลาสติน เอเอชเอ โปรคอลลาเจน และโซเดียม พีซีเอเป็นต้น ปัจจุบันมีหลากผลิตภัณฑ์ที่นำสารสำคัญต่างๆเหล่านี้มารวมกันที่คุณสามารถเลือกหามาสัมผัสผิวสวยของคุณได้

บางท่านอาจใช้วิธีรับประทานตัวช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับผิว เช่น น้ำมันจากดอกอิฟนิ่งพริมโรส หรือวิตามินอีที่ได้จากแหล่งธรรมชาติจากจมูกข้าวสาลี

ปกป้องผิวงามไม่ให้ชราจากการโดนแสงแดดทำลาย

เพียงแต่เลือกสรรครีมกันแดดที่มีประสิทธิภาพสูงในการป้องกันแสงแดด ซึ่งมีหลายผลิตภัณฑ์ให้เลือกมากมาย ถ้าเป็นไปได้ควรสังเกตว่ามีส่วนผสมของสารชนิดที่ช่วยสะท้อนกลับรังสีได้ดีหรือไม่ และบางผลิตภัณฑ์อาจมีการผสมกับน้ำมันจากดอกอิฟนิ่งพริมโรสก็ช่วยบำรุงให้ผิวขาวสดใสเพิ่มขึ้น

เมื่อใดที่คุณควรเสริมด้วยคอลลาเจน

นอกเหนือไปจากการดูแลผิวภายนอก เพื่อสุขภาพผิวของคุณให้แข็งแรงและมีความยืดหยุ่นดี ช่วยลดริ้วรอยเหี่ยวย่น ทำให้ผิวพรรณกระชับ เนียนใส เปล่งปลั่ง เรายังต้องการตัวช่วยการดูแลผิวจากภายในโดยการเติมคอลลาเจนด้วยการกิน คอลลาเจนที่ได้มานี้ยังไปช่วยเผาผลาญไขมัน ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการนอนหลับ เพิ่มความกระฉับกระเฉง เสริมสร้างกล้ามเนื้อ บำรุงข้อต่อ และ กระดูก และในผู้ที่มีน้ำหนักตัวน้อยเกินไป คอลลาเจนจะช่วยเสริมสร้างกล้ามเนื้อให้ดูมีเนื้อมีหนังดูดี ไม่ผอมเก้งก้าง

อย่างไรก็ตาม ภาวะร่วงโรยของผิวหนังที่ดำเนินไปอย่างต่อเนื่องและไม่หยุดยั้งตามตัวเลขของวัยที่เพิ่มขึ้นๆ เราพบว่าไม่มีอะไรที่จะสามารถแก้ปัญหานี้ได้อย่างถาวร คุณต้องดูแลผิวด้วยการรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ ได้แก่ ผัก ผลไม้ ซึ่งอุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระ ช่วยลดความเสื่อมของผิว โดยเฉพาะอาหารที่มีวิตามินซีซึ่งจำเป็นต่อการสร้างคอลลาเจน นอกจากนี้ควรดื่มน้ำที่สะอาด พักผ่อนนอนหลับให้เพียงพอ และออกกำลังกายสม่ำเสมอควบคู่กันไป ส่วนเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ควรหลีกเลี่ยงรวมไปถึงบุหรี่ สุดท้ายที่ควรหลีกเลี่ยง คือสภาวะที่มีฝุ่นและควันพิษต่างๆ รวมทั้งแสงแดดจัดๆ ในช่วงเวลา 9.30-15.00 น. ซึ่งจะทำลายผิวได้มาก และเป็นสาเหตุให้ผิวพรรณแห้งหยาบกร้าน และเกิดริ้วรอยก่อนวัยอันควร

หากคุณเองต้องเสริมด้วยคอลลาเจนเพื่อผิวใสเด้งดึ๋ง ตอนต่อไปเภสัชกรหนุ่มรูปหล่อจะพาไปเลือกสรรคอลลาเจนเสริม ว่าจากแหล่งใด กินอย่างไร จึงจะได้ผลและปลอดภัย หากคุณๆ ใจร้อนอยากทราบทุกคำตอบทุกเรื่องเกี่ยวคอลลาเจน สามารถตามไปอ่านบทความได้โดยตรงโดยคลิ้กตามไปที่ link ข้างล่าง หรือส่งซองคำถามของคุณมาได้ที่อีเมล์ utaisuk@gmail.com ยินดีตอบรับทุกท่านครับ

แหล่งข้อมูล

•เภสัชกร อุทัย สุขวิวัฒน์ศิริกุล สงวนลิขสิทธิ์ 28 มค. 2553
http://www.oknation.net/blog/DIVING

เราสูญเสียคอลลาเจนได้อย่างไร จึงทำให้ดูแก่

ทำไมคนเราเดี๋ยวนี้ถึงแก่โทรมได้เร็วจนต้องหันมาพึ่งพาอาหารเสริมและเทคโนโลยี่ทางการแพทย์เพื่อชะลอและคืนความเยาว์วัยให้คุณได้กลับไปมีแก้มชมพูเด้งดึ๋งๆแบบเด็กน้อยได้อีก เรามาดูถึงปัจจัยแห่งความเสื่อมของผิวกันก่อนดีไหม ทำไมคนเราเดี๋ยวนี้ถึงได้แก่เหี่ยวย่นได้เร็ว

จากรายงานการวิจัยทางการแพทย์ระบุว่า สาเหตุที่ก่อให้เกิดการสลายตัวของคอลลาเจนได้อย่างเร็วก็คือ

·  อนุมูลอิสระทั้งที่เกิดจากการสูบบุหรี่ของคุณเอง หรือการได้รับควันบุหรี่มือสองจากผู้อื่น รวมไปถึงอนุมูลอิสระจาการใช้ยา สารเคมีต่างๆทั้งในรูปแบบอาหาร เครื่องสำอาง เครื่องประทินผิว

·  แสงแดดแรงๆรวมไปถึงแสงหลอดไฟที่มีกำลังส่องสว่างแรงเกินไป ที่ใช้ในบ้านเรือนหรือสำนักงาน
·  มลพิษต่างๆ สารปนเปื้อนในอาหารที่รับประทานเข้าไป และ
·  การเปลี่ยนแปลงระดับของฮอร์โมนในร่างกายคุณเอง แต่ละคน

สาเหตุทั้งหลายเหล่านี้ไปส่งผลต่อผิวหนังในชั้นหนังกำพร้า และชั้นหนังแท้ที่ประกอบด้วยเนื้อเยื่อทั้ง 2 ชนิด คือ คอลลาเจน และอิลาสติน ที่มีบทบาทสำคัญที่เล่ามาให้ฟังจากตอนแรกว่า ทั้งคู่ในจะช่วยทำให้ผิวพรรณเต่งตึงมีความยืดหยุ่นเด้งดึ๋งๆ และยังช่วยควบคุมความชุ่มชื้นเมื่อถูกทำลายให้ลดลง และสมทบด้วยอายุที่มากขึ้นทุกวันๆ ส่งผลทำให้เกิดความไม่สมดุลระหว่างการผลิตและการสลายตัวของคอลลาเจนตามธรรมชาติ สุดท้ายใบหน้ารวมทั้งผิวกายก็เกิดริ้วรอย ผิวลายหย่อนคล้อย และหยาบกระด้างตามมาในที่สุด



วิธีที่จะทำให้ผิวพรรณกลับคืนสู่ความวัยเยาว์นั้นก็คือการเพิ่มคอลลาเจนให้กับผิวพรรณ ซึ่งจะเป็นตัวช่วยที่นำคุณกลับไปสู่ความอ่อนเยาว์ได้อีก การที่คุณจะเพิ่มคอลลาเจนได้ง่ายๆ มีหลายวิธีการ ดังต่อไปนี้


1.    โดยการกินอาหารหรือวิตามินที่ต่อต้านอนุมูลอิสระ
ปัจจุบันมีการค้นคว้าเพื่อหาแหล่งธรรมชาติที่จะช่วยเสริมคอลลาเจนที่ขาดหายไป เพราะผิวหนังที่มีคอลลาเจนที่แข็งแรงจะเป็นผิวหนังที่เปล่งปลั่ง เนียนใส คอลลาเจนจึงเป็นหัวใจสำคัญที่คงความยืดหยุ่น และช่วยเก็บกักความชุ่มชื้นไว้ไม่ให้สูญเสียไปกับสภาพแวดล้อม
สารต่อต้านอนุมูลอิสระที่เกิดจากธรรมชาติจะช่วยกำจัดการสร้างอนุมูลอิสระให้หมดไปและไม่ทำลายเซลล์ผิวหนัง ซึ่งได้แก่
·         เบต้าแคโรทีน
·         วิตามินซี
·         วิตามินอี
·         โค-เอ็นไซม์คิวเทน
·         เกรฟซีด
สารเหล่านี้เป็นสารที่มีประสิทธิภาพสูงในการกำจัดอนุมูลอิสระ มีคุณสมบัติสร้างความแข็งแรงของเนื้อเยื่อคอลลาเจน และอิลาสติน

2.    โดยการกินสารอาหารสกัดที่เป็นโปรตีนจากปลาทะเล ทีมีโครงสร้างโมเลกุลคล้ายกับคอลลาเจนของผิวมนุษย์
เทคโนโลยี่อาหารในปัจจุบันช่วยให้การนำสารสกัดโปรตีนจากปลาทะเลบางประเภท ซึ่งมีโครงสร้างโมเลกุลคล้ายกับโครงสร้างของคอลลาเจนของผิวมนุษย์ มาทำเป็นผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร ซึ่งพบว่าหลังจากรับประทานไปได้ระยะหนึ่งและอย่างต่อเนื่องจะสามารถช่วยเสริมสร้างเนื้อเยื่อคอลลาเจนใต้ผิวหนัง ช่วยให้ริ้วรอยต่างๆ จางหาย และทำให้ผิวหนังมีความชุ่มชื้น นุ่มเนียนขึ้น
เนื่องจากคอลลาเจนจากปลาทะเล เป็นโปรตีนคุณภาพสูงและให้กรดอะมิโนครบถ้วน ซึ่งเป็นสารที่จะกลายเป็นโครงสร้างหลักของผิว เส้นผม เล็บ กระดูก และข้อต่อ หรือแม้แต่ผนังหลอดเลือด
สำหรับวิธีการที่จะนำสารสกัดโปรตีนคอลลาเจนเข้าสู่ร่างกายทำได้ 2 วิธี คือ การกินในรูปแบบผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร และการฉีดเข้าใต้ผิวหนังชั้นหนังแท้ ซึ่งจะเห็นว่าวิธีแรกเป็นวิธีที่สะดวกกว่ามากเพราะสะดวกและปลอดภัยกว่า

ส่วนคำถามที่ว่าแล้วยาทาหรือเครื่องสำอางที่อ้างว่าผสมคอลลาเจนไม่ดีหรือ คำตอบที่แน่ชัดแล้วก็คือคอลลาเจนเป็นโปรตีนที่มีโครงสร้างโมเลกุลใหญ่มาก จึงไม่สามารถซึมผ่านผิวหนังได้ด้วยการทา ที่มีเครื่องประทินผิวมากมายวางขายตามท้องตลาดที่อวดอ้างสรรพคุณว่ามีส่วนผสมของคอลลาเจน จะช่วยได้เพียงผิวๆเท่านั้นเองครับ คือไปเป็นการเติมคอลลาเจนให้อยู่บริเวณชั้นผิวหนังกำพร้า เนื่องจากคอลลาเจนเองมีคุณสมบัติอุ้มน้ำได้ประมาณ 30 เท่าของน้ำหนักตัวมันจึงทำให้ผิวหนังกำพร้าชุ่มชื้นขึ้น แต่ไม่สามารถแก้ปัญหาริ้วรอยได้อย่างแท้จริง เพราะการเสริมสร้างคอลลาเจนนั้นจะต้องเข้าสู่ผิวหนังได้ด้วยการกินหรือการฉีดเข้าใต้ผิวหนังเท่านั้น


ขอขอบคุณข้อมูล จาก
เภสัชกร อุทัย สุขวิวัฒน์ศิริกุล
 http://www.oknation.net/blog/DIVING